
หมอเตือนแล้วไม่ฟัง สาวคลอดลูกออกมามีน้ำหนักประมาณ 4.7 กก. มีความเสี่ยงสมองเสียหาย ต้นเหตุมาจากอาหารที่แม่ทานในขณะที่ตั้งครรภ์
ตามรายงานข่าวในเว็บไซต์ Sohu ที่ประเทศจีน หญิงสาวอายุ 21 ปี หลังจากตั้งครรภ์ก็มาอาศัยอยู่ที่บ้านแม่สามีในชนบท เนื่องจากตารางงานที่ยุ่งของสามีจึงห่วงว่าจะดูแลภรรยาได้ไม่ดีพอ ในขณะที่ผู้เป็นแม่สามีมีบุคลิกที่เรียบง่าย บวกกับอากาศในชนบทที่มีความสดชื่น และสภาพแวดล้อมที่มีความสวยงาม จึงทำให้ลูกสะใภ้ที่ตั้งครรภ์อยู่รู้สึกผ่อนคลายและมีความสุขเป็นอย่างมาก

เมื่อเวลาผ่านไปสักระยะหนึ่งลูกสะใภ้เกิดอาการเบื่ออาหารที่แม่สามีเป็นคนทำให้ทานในทุกวัน แต่ตัวเธอเองก็ยังชอบการกินข้าวที่ปลูกเองเป็นอย่างมาก เพราะไม่ใช้ยาฆ่าแมลงแต่อย่างใด มีรสชาติที่หวานหอม ทำให้เธอทานข้าวได้วันละ 2 ชามใหญ่ในทุกมื้อ โดยที่ไม่ต้องทานเครื่องเคียงด้วยซ้ำ และด้วยพฤติกรรมการกินข้าวเช่นนี้เองทำให้น้ำตาลในเลือดของเธอค่อยๆเพิ่มขึ้น หลังจากทานข้าวขาวเป็นอาหารหลักเป็นเวลานาน ทำให้แพทย์ได้เตือนให้เธอรับประทานอาหารอย่างเหมาะสม ในสัดส่วนที่พอเหมาะ แต่สุดท้ายเธอก็ไม่ได้ทำตามที่คุณหมอได้แนะนำเอาไว้ แต่ยังคงกินข้าวขาวมากขึ้นเรื่อยๆในทุกๆวันในช่วงที่ตั้งครรภ์

เมื่อถึงวันที่ใกล้คลอด ทารกในครรภ์ก็มีนำตัวที่โตเร็วขึ้นกว่าที่คาดคิดเอาไว้ ในที่สุดแพทย์ก็ต้องเลือกวิธีการผ่าคลอด เมื่อเด็กเกิดมาทำให้เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์รู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก เพราะทารกคนนี้มีน้ำหนักประมาณ 4.76 กิโลกรัม ซึ่งหาเคสนี้ได้ยากมาก
เมื่อทำการตรวจสอบร่างกายของทารกที่คลอดออกมาพบว่าในส่วนของสมองของทารกได้รับความเสียหาย มีความเสี่ยงต่อความบกพร่องทางสติปัญญา ซึ่งสาเหตุก็คือน้ำตาลในเลือดของผู้เป็นแม่ในระหว่างตั้งครรภ์ที่มากจนเกินไป ทำให้ทารกในครรภ์ขาดออกซิเจนเป็นเวลานาน ส่งผลกระทบที่ร้ายแรงต่อพัฒนาการสมองของทารก