เรื่องราวของ “โจว จุนเฉิง” ชายหนุ่มจากมณฑลหูเป่ย์ ประเทศจีน เจ้าของรอยยิ้มที่ละเอียดอ่อนและเป็นคนขี้อาย เติบโตมาในครอบครัวที่ยากจน พ่อแม่ล้มป่วยเป็นเวลานานหลายปี เขาต้องออกไปทำงานเพื่อช่วยหาเงินให้กับครอบครัว เขาเป็นคนที่มีทั้งความขยันขันแข็งและเต็มไปด้วยความมีน้ำใจ แต่อย่างไรก็ตามจะต้องเผชิญกับชะตากรรมที่น่าเศร้า เมื่อเขาได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคที่หายาก และเสียชีวิตในเพียงแค่ 34 ปีเท่านั้น
โดยเขาเป็นผู้ป่วยโรคตับอ่อนอักเสบและโรคหลอดเลือดสมอง โมยาโมยา (Moya-Moya disease) แต่เขายังคงต้องทำงานเพื่อลดภาระของครอบครัว กระทั่งในช่วงเย็นของเดือนกรกฎาคมที่ปีที่แล้ว ขณะที่ขี่มอเตอร์ไซค์กลับบ้านหลังจากทำงานล่วงเวลา อาการป่วยของเขาก็เกิดกำเริบขึ้นอย่างกะทันหัน ส่งผลที่ทำให้รถที่เขาขี่มาล้มลงบนถนนทันที และได้รับบาดเจ็บบริเวณศีรษะ
ซึ่งคนขับแท็กซี่เห็นอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นแล้วซึ่งมีผู้โดยสารนั่งมาด้านหลังด้วยจึงรีบลงไปช่วยทันที เมื่อเห็นว่าบริเวณศีรษะของเขามีเลือดออกจำนวนมากจึงพาขึ้นรถทันที หวังว่าจะนำผู้บาดเจ็บชายคนนี้นำส่งโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด อย่างไรก็ตามคุณโจวยืนกรานที่จะลงจากรถทันที เป็นเพราะว่าครอบครัวของเขายากจน และไม่มีเงินจ่ายค่ารักษาพยาบาล ท้ายที่สุดคนขับและผู้โดยสารคนดังกล่าวจึงไม่มีทางเลือกนอกจากปล่อยให้เขาลงจากรถทันที
ทั้งนี้เนื่องจากกล้องวงจรปิดจับภาพอุบัติเหตุไว้ได้อย่างชัดเจน คนขับแท็กซี่จึงแจ้งความกับตำรวจท้องที่ให้ช่วยเหลือตามหากันทั้งคืน ในที่สุดก็พบคุณโจวเมื่อช่วงเวลาประมาณ 03.00 น. โดยที่มีเลือดหยดมาจากศีรษะ เขาจึงบอกว่าเขาเป็นโรคตับอ่อนอักเสบและโรคโมยาโมยา ซึ่งนำไปสู่โรคเบาหวานร่วมด้วย บาดแผลของเขารักษาไม่ได้ง่ายเลย ค่ารักษาพยาบาลก็แพงมากๆ จึงทำให้เขาตัดสินใจกลับมาที่บ้านมารอความตาย รอดูว่าแผลหายก่อนที่เลือดจะหยุดไหลหรือถ้าเลือดไหลไม่หยุดก็คงจะตายทันที
สำหรับเรื่องราวของคุณโจวได้ออกสู่โลกอินเทอร์เน็ตก็มีชาวเน็ตเห็นใจเป็นจำนวนมากช่วยบริจาคเงินทั้งหมดรวม 570,000 หยวน (มากกว่า 2.6 ล้านบาท) เพื่อเป็นค่ารักษาพยาบาลและปรับปรุงสภาพแวดล้อมภายในบ้านของเขา
อย่างไรก็ตามโชคชะตาของเขาก็เล่นตลกกับชีวิตของเขาอีกครั้ง เพราะคุณโจวล้มป่วยอีกครั้งในช่วงเดือนมิถุนายนปีนี้ เขาต้องออกจากโรงพยาบาลในช่วงเช้าตรู่วันที่ 24 กันยายน ก่อนที่จะเสียชีวิตลงอย่างน่าเศร้าในวัย 34 ปี เจ้าหน้าที่และทีมแพทย์กล่าวว่าก่อนที่เขาจะเสียชีวิต ก็ได้กล่าวคำขอโทษต่อเจ้าหน้าที่และทุกๆคนที่สร้างปัญหา
